ทำไมการวัดความหนาสารเคลือบผิว จึงสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ของคุณ !?

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดด การเคลือบผิวไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่ง แต่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การเลือกใช้วิธีการเคลือบผิวที่เหมาะสม เช่น การเคลือบสี การเคลือบผง การเคลือบด้วยสารเคลือบหล่อลื่น หรือการเคลือบผิวด้วยสารยึดเกาะ จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณโดดเด่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด !!

แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมการวัดความหนาของสารเคลือบผิว จึงมีความสำคัญมากขนาดนั้น !?  วันนี้เรา H.J.Unkel Thai จะมาพูดคุยเรื่องนี้กันค่ะ

---

ความหนาสารเคลือบผิว...กุญแจสำคัญสู่คุณภาพและประสิทธิภาพ !!

สารเคลือบผิว และความหนาของสารเคลือบส่งผลต่ออะไรบ้าง?

1. คุณภาพของผลิตภัณฑ์: 

   ความหนาของสารเคลือบที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอ และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น โดยระดับความเหมาะสมของความหนาขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคลือบ เพราะสารเคลือบแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นความหนาที่เหมาะสมจึงย่อมแตกต่างกันไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น สำหรับผลิตภัณฑ์บางชนิด อย่างชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ความหนาของสารเคลือบจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความหนาของสารเคลือบเพื่อลดแรงเสียดทาน เป็นต้น

   
   

2. การป้องกันการกัดกร่อน: 

   สารเคลือบช่วยป้องกันผลิตภัณฑ์จากการเกิดสนิมและการกัดกร่อนในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

   
   

3. ความสวยงาม: 

   ความหนาของสารเคลือบที่สม่ำเสมอ จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีความสวยงามและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

   
   

4. การปฏิบัติตามมาตรฐาน: 

   อุตสาหกรรมหลายแห่งมีมาตรฐานที่กำหนดความหนาของสารเคลือบที่เหมาะสม การตรวจสอบความหนาจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐาน

   
   
   
   

   

   
   
   
   

ทำไมต้องวัดความหนาของสารเคลือบ?

1. ควบคุมคุณภาพ:

   การวัดความหนาของสารเคลือบอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีคุณภาพสม่ำเสมอ

   
   

2. ลดต้นทุน: 

   การควบคุมความหนาของสารเคลือบที่เหมาะสมจะช่วยลดการใช้สารเคลือบที่มากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ลดต้นทุนการผลิต

   
   

3. ป้องกันปัญหา: 

   การตรวจสอบความหนาของสารเคลือบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเคลือบไม่ทั่วถึง หรือการเคลือบหนาเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์

   
   

4. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: 

   การวัดความหนาของสารเคลือบอย่างรวดเร็วและแม่นยำ จะช่วยให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

   
   
   
   

   

   
   

การวัดความหนาของสารเคลือบ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงและตรงตามมาตรฐานที่กำหนด และการเลือกใช้เครื่องมือวัดความหนาที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิต จึงเป็นที่มาที่ทำให้ เครื่องมือวัดความหนาของสารเคลือบ เป็นที่นิยมใช้กันในหลายอุตสาหกรรม !!

แม้ว่าการเคลือบผิวเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตหลายประเภท แต่การควบคุมความหนาของชั้นเคลือบให้สม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย!

ปัญหาของการวัดความหนาสีแบบเดิม ที่มักพบ:

1. การทำลายชั้นเคลือบผิว: 

   อุปกรณ์วัดแบบเดิมหลายชนิดอาจทำลายชั้นเคลือบผิวในระหว่างการวัด ส่งผลให้ได้ค่าที่ไม่แม่นยำและไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก

   
   

2. ความแม่นยำต่ำ: 

   อุปกรณ์บางชนิดมีความแม่นยำในการวัดที่ต่ำ ทำให้ยากต่อการควบคุมคุณภาพและอาจเกิดข้อผิดพลาดในการผลิต

   
   

3. การวัดช้า: 

   การวัดด้วยวิธีเดิมอาจใช้เวลานาน ทำให้การควบคุมกระบวนการผลิตเป็นไปอย่างล่าช้า

   
   
   
   

เครื่องวัดความหนาสี DeFelsko และ Coatmaster

นวัตกรรมเพื่อการควบคุมคุณภาพที่เหนือกว่า !!

เครื่องวัดความหนาสีแบรนด์ DeFelsko (ประเทศ USA ) และ แบรนด์ Coatmaster ( ประเทศ Switzerland ) ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาข้างต้น ด้วยความแม่นยำสูงและใช้งานง่าย ทำให้คุณสามารถควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ดังนี้

1. ไม่ทำลายชั้นเคลือบผิว: 

   เครื่องวัดความหนา DeFelsko และ เครื่องวัดความหนา Coatmaster มีเทคโนโลยีการวัดแบบไม่ทำลายพื้นผิว ส่งผลให้ได้ค่าที่แม่นยำ และสามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก

2. ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ: 

   ช่วยลดการสูญเสียวัสดุจากการเคลือบที่ผิดพลาด ลดการผลิตชิ้นงานที่ไม่ผ่านคุณภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

   
   

3. ควบคุมคุณภาพได้อย่างแม่นยำ: 

   รักษาความสม่ำเสมอของความหนาของชั้นเคลือบผิวได้อย่างแม่นยำตามที่ต้องการ

   
   

4. วัดได้หลากหลายประเภท: 

   สามารถวัดความหนาของสีเคลือบผิวประเภทต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น สีเปียก สีผง สีเคลือบหล่อลื่น

   
   

5. วัดได้บนพื้นผิวที่หลากหลาย: 

   สามารถวัดได้แม้กระทั่งบนพื้นผิวที่ขรุขระหรืออ่อนนุ่ม

   
   
   
   

   

   เครื่องวัดความหนาสี แบรนด์ DeFelsko

   
   

   

   เครื่องวัดความหนาสี แบรนด์ Coatmaster (รุ่น Flex)

   
   
   
   
   
   

ประโยชน์ของการใช้เครื่องวัดความหนาสี DeFelsko และ Coatmaster:

การเคลือบผิวสี ( Industrial Coating):	ควบคุมความหนาของสีเคลือบผิวได้อย่างแม่นยำ ลดการเกิดข้อผิดพลาดในการผลิต ประหยัดต้นทุนสีและวัสดุ เพิ่มคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์
การเคลือบผงสี ( Powder Coating ):	ควบคุมความหนาของชั้นผงสีได้อย่างแม่นยำ ลดการสูญเสียวัสดุ ป้องกันปัญหาการผลิตที่เกิดจากความหนาของชั้นผงสีที่ไม่สม่ำเสมอ
การเคลือบผิวด้วยสารเคลือบหล่อลื่น (Lubricant Coating) :	รักษาความหนาของชั้นเคลือบผิวให้สม่ำเสมอ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ลดแรงเสียดทานและยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วน
การเคลือบผิวด้วยสารยึดเกาะ ( Adhesive ):	ควบคุมความหนาของชั้นสารยึดเกาะได้อย่างแม่นยำ เพื่อประสิทธิภาพการยึดเกาะที่ดีที่สุด

สรุป

การวัดความหนาของสารเคลือบเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้เครื่องมือวัดความหนาที่เหมาะสม เช่น เครื่องวัดความหนาสี DeFelsko หรือ เครื่องวัดความหนาสี coatmaster จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีคุณภาพสูง ตรงตามมาตรฐาน และสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

PosiTector® 6000 (เครื่องวัดความหนาผิวเคลือบ)

Buy Now

Handheld coatmaster Flex (เครื่องวัดความหนาของผิวเคลือบแบบไร้สัมผัส)

Buy Now

---

หากท่านสนใจในเครื่องวัดความหนาสี หรือสารเคลือบ สามารถติดต่อได้ที่ H.J.Unkel (Thai) Limited

บริษัทฯ ยินดีอย่างยิ่งที่จะให้บริการทุกท่านด้วยความเชี่ยวชาญในสินค้าและงานบริการกว่า 45 ปี